จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

วันศุกร์ที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

ผู้อยากเป็นใหญ่ ต้องเป็นผู้รับใช้ผู้อื่น


“เต็กเฮงหยู” ชีวิตนี้เพื่อผู้อื่น
ที่มา:ศูนย์พัฒนาการเด็กพิการ บ้านสิทธิดา

          คนเราเลือกเกิดไม่ได้ แต่มีสิทธิ์เลือกที่จะเป็นนั่นเป็นโน่นเป็นนี่ เพื่อมีตำแหน่งหน้าที่ มีอำนาจบารมีมีรายได้ได้ ทว่าจะประสบความสำเร็จ สมหวังดังตั้งใจหรือไม่นั้น ไม่แน่เสมอไป

            อย่างที่พระท่านว่า  มีลาภเสื่อมลาภ มียศเสื่อมยศ ดีชั่วอยู่ที่ตัวกระทำ ตามหลักโลกธรรม 8 ฉันใดก็ฉันนั้น 
                      
            คนเราเลือกเกิดไม่ได้ แต่เลือกที่จะเป็นคนดีได้ เลือกที่จะมีชีวิตเพื่อผู้อื่นได้

            ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร เป็นอดีตนายกรัฐมนตรี เป็นนายกรัฐมนตรี,รัฐมนตรี เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) เป็นนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด ,ส่วนตำบล หรือ(กำลังจะ) เป็นสมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัด(สอบจ.) เป็นพ่อเป็นแม่ เป็นครูอาจารย์ เป็นข้าราชการ ทหารตำรวจ เป็นพ่อค้านักธุรกิจ ฯลฯ

            ทุกคนสามารถเป็นคนดี และ เลือกที่จะมีชีวิตเพื่อผู้อื่นได้อย่างแน่นอน

            ถ้าคุณมุ่งมั่นตั้งใจ และทำจริง แบบ “เต็กเฮงหยู” (ชื่อแรกของบริษัทโอสถสภา จำกัด)
            “เต็ก” หมายถึง คิดถึงบุญคุณ
            “เฮง” หมายถึง ความดีงาม
            “หยู” หมายถึง ยั่งยืนยาวนาน

            ซึ่ง คุณรัตน์ โอสถานุเคราะห์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัทโอสถสภา จำกัด ให้ความหมายไว้ว่า “เจริญโดยการช่วยเหลือผู้อื่น”

            เหมือนคุณ ตัน ภาสกรนที เจ้าของสแกน “ตันไม่ตัน” เจ้าของกิจการอิชิตันมูลค่าหลายพันล้านบาท

             เจ้าของมูลนิธิตันปัน “ผู้ที่ยิ่งให้ ยิ่งแบ่งปัน ก็ยิ่งได้”

            คุณตัน ยากจนและล้มเหลวในการเริ่มต้นทำธุรกิจมาครั้งแล้วครั้งเล่า แต่คุณตันไม่เคยละทิ้งคำว่า “ให้-แบ่งปันและกตัญญู”ต่อผู้มีอุปการคุณ  ไม่ว่าในยามทุกข์ยากแสนเข็ญ หรือมั่งมีศรีสุข 

            เหมือนกับบริษัทโอสถสภา จำกัด ที่ไต่เต้ามาจากร้านขายยาเล็กๆชื่อ “เต็กเฮงหยู”ย่านสำเพ็ง กรุงเทพฯ เมื่อ พ.ศ.2434  เริ่มจากตึกคูหาเดียว มีพนักงาน 5 คน 

            ผ่านไป 120 ปี “เต็กเฮงหยู” กลายเป็น “บริษัทโอสถสภา จำกัด” มีพนักงานกว่า 3 พันคน มูลค่าสินทรัพย์และธุรกิจหลายพันล้านบาท

            ที่เป็นไปเช่นนี้ได้  ก็เพราะ ผู้บริหารโอสถสภาทุกรุ่นทุกคน มีเป้าหมาย คือ ทำให้คนไทยมีชีวิตที่ดีกว่า (รัตน์ โอสถานุเคราะห์)

            ทุกผู้คนที่เจริญเติบโต มีชื่อเสียงอยู่ได้ ส่วนใหญ่ได้มาจากการช่วยเหลือผู้อื่น(นฤตย์ เสกธีระ,มติชน)

            มาถึงตรงนี้ ทำให้ผมนึกถึง องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ศาสดาเอกบรมครูของโลก บรรดานักบุญทั้งหลาย ว่านวงศ์พงศ์กษัตริย์ รัฐบุรุษ  วีรบุรุษวีรสตรี  ปูชนียบุคคล ท่านเหล่านี้ล้วนแล้วแต่ “เจริญชีวิตเพื่อช่วยเหลือผู้อื่น สังคมและชาติบ้านเมืองทั้งสิ้น”

            ทำให้ผมระลึกถึง คำสอนของพระเยซูเจ้าที่ตรัสว่า “ให้รักเพื่อนมนุษย์เหมือนรักตนเอง”ให้รักแม้กระทั่งศัตรู  และพระองค์ได้กระทำจริง เพื่อเป็นแบบอย่าง แม้กระทั่ง “การสละชีวิตของตน” 

            การเป็นผู้ที่ยอมแพ้ ยอมสละแม้ชีวิต และดำรงชีวิตอยู่ด้วยความรัก รับใช้ ให้อภัยและแบ่งปันอย่างสุดจิตใจสุดกำลัง ทำให้พระองค์กลับกลายเป็น “พระเจ้าของทุกคน” แม้ถือกำเนิดในรางหญ้า คอกปศุสัตว์ ในครอบครัวของช่างไม้ที่ยากจน

            การมีชีวิตเพื่อความดีงาม การเจริญชีวิตเพื่อผู้อื่น นี่เกิดแก่ใครก็ล้วนงดงาม และควรแก่การสรรเสริญยิ่ง จริงๆครับ