ความดีไม่มีวันตาย
แต่ประชาธิปไตยตายแล้ว
ปรากฎการณ์ละครเหนือเมฆ2ตอนมือปราบจอมขมังเวทย์ที่ถูกผู้มีอำนาจของช่อง3แบนโดยวิธีปลดกลางอากาศ ไม่มีตอนจบ และ ถูกสั่ง“ปิดตาย”ห้ามเผยแพร่ทุกสื่อนั้นน่าสนใจยิ่งสำหรับประชาชนคนไทยผู้นิยมประชาธิปไตยและยึดถือในสิทธิเสรีภาพเป็นหลักการสำคัญ
หนึ่ง คือ น่าสนใจถึงเหตุผล
กระบวนการ และระบบการตรวจสอบภายใต้ระบอบประชาธิปไตยที่มีประสิทธิภาพและจิตวิญญาณของสื่อเสรี
เพราะหากสังคมประชาธิปไตยยึดถือหลักที่ว่า
“เสรีภาพสื่อ คือ เสรีภาพประชาชน”
การปิดตายละครเหนือเมฆ2ของช่อง3โดยฉับพลันทันที
ไม่มีเหตุผลและข้อเท็จจริงที่เพียงพอมาสนับสนุนว่าละครไปละเมิดสิทธิเสรีภาพของใคร
อย่างไร
ก็เข้าทำนอง
ปฎิบัติการ“ปิดหู ปิดตา ปิดทวารการรับรู้และเรียนรู้จิตวิญญาณแห่งความเป็นประชาธิปไตย”
เหตุเพราะโดยเนื้อหาสาระหลักของละครเหนือเมฆ
2มุ่งสู่ “จินตปัญญา”ที่สั่งสมคุณธรรมและวิธีคิดเพื่อความดีของส่วนรวม(Common Good)
ภายใต้คาถาที่ว่า
“ความดีไม่มีวันตาย”ของ
“ผบ.นภาและพวก”ที่จงใจส่งผ่านบทละครสู่การเรียนรู้ของสังคม
บ่งบอกถึงความเชื่อของการ “ใช้ความดีเอาชนะความชั่ว”
และยืนหยัดยึดมั่นในความดีงามนั้นไว้อย่างมั่นคง
ไม่หวั่นไหว ภายใต้การคุกคามของความโลภ โกรธ หลง ตลอดจวบจนวาระสุดท้ายของชีวิต
ถึงแม้จะต้องตายก็ให้ตายใน
“คุณความดี” เพื่อ “คุณความดี” โดยกระทำแต่ “คุณความดี” เพื่อผู้อื่น เพื่อสังคม
อันเป็นปัจฉิมโอวาทสำคัญแห่งพุทธศาสดาที่ทรงตรัสสอนให้หมู่ภิกษุทั้งหลาย
“ยังประโยชน์ตนเพื่อประโยชน์ส่วนรวม”
อันเป็นพระวจนาถต์ “ทำดีเพื่อผู้อื่น”ที่ดำรงอยู่ก่อนแล้วในโลก
และปรากฏเป็นจริงผ่านชีวิตมนุษย์ขององค์พระเยซูคริสตเจ้า
เป็นพระราชบรมราโชวาทในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ทรงตรัสสอนประชาชนของพระองค์ให้ใช้
“ธรรมะปราบอธรรม”
สะท้อนถึงอุดมการณ์-รากเหง้าและหลักของความเป็นประชาธิปไตยที่ต้องตั้งอยู่บนฐานของความถูกต้อง
ความดี ความงามของจิตวิญญาณแบบ “ธรรมาธิปไตย”
สอง
คือ สะท้อนแง่มุมของระบบ วิธีคิดและการตรวจสอบแบบประชาธิปไตยที่นักการเมืองนิยมกล่าวว่า
“มีอะไรไปพูดกันในสภา”... “ให้สภาเป็นผู้ตัดสิน...เป็นผู้กำหนด”
เหตุเพราะการเมืองแบบประชาธิปไตยยึดถือหลักเหตุผล
การรับฟังและการเคารพความคิดเห็นซึ่งกันและกัน อันเป็นหลักการแห่ง “สิทธิและเสรีภาพ”ในระบอบประชาธิปไตยแบบตัวแทน
ซึ่งหมายถึงการยอมรับบทบาทหน้าที่และความรับผิดชอบของ
“สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในฐานะผู้แทนของปวงชนชาวไทย”ที่ยึดมั่นและยึดโยงใน “ผลประโยชน์ของประชาชนและประเทศชาติ
มากกว่าผลประโยชน์ส่วนตน”
อันเป็นสาระการเรียนรู้หลักที่ละครเหนือเมฆ2มุ่งให้การเรียนรู้แก่ประชาชนคนดู เพื่อหวังให้ “มโนสำนึกฝ่ายดีมีชัยเหนือการทุจริตคอรัปชั่น”
การทุจริตคอรัปชั่นโดยใช้อำนาจทางการเมืองอันเป็นอำนาจแท้ของปวงชนที่มอบให้นักการเมืองผ่านกระบวนการเลือกตั้ง
เพื่อสนองกิจการและความร่ำรวยส่วนตน
แต่กลับสร้างความหายนะให้แก่ชาติบ้านเมืองและบรรทัดฐานกติกาในการปกครองประเทศ
จึงเป็นความเลวร้ายที่บ่อนทำลายชาติและทำร้ายความเป็นประชาธิปไตยอย่างเด่นชัดผ่านบทบาทของ
“รองจักร”ผู้รักษาการในตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และ “พญามาร”ผู้ชำนาญในไสยเวทย์
ที่ผู้สร้างและเขียนบทละครบรรจงใส่ไว้ในจิตสำนึกของประชาชนคนดู
เพื่อฟื้นฟูจิตวิญญาณแห่ง
“ธรรมะ”อันเป็นรากฐานสำคัญของประชาธิปไตยแบบ“ธรรมาธิปไตย”
ซึ่ง
ณ บัดนี้ช่อง 3 ได้ใช้อำนาจสั่ง “ปิดตาย”กลายเป็นตำนาน
“เผด็จการแห่งจอแก้ว” ไปแล้ว โดยไม่ใยดีต่อเสียงเรียกร้องของประชาชนคนดู ภายใต้รัฐบาลที่มุ่งมั่นความเป็นประชาธิปไตย
ไม่เอารัฐธรรมนูญที่มาจากเผด็จการ