จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

วันเสาร์ที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2555

แก้ไขรัฐธรรมนูญ แก้ไขปัญหาผูกขาดประเทศ(2)

แก้ไขรัฐธรรมนูญ  : สิ่งที่เห็นไม่ได้เป็นอย่างที่คิด

         แก้ไขรัฐธรรมนูญ แก้เพื่อใคร แก้ทำไม แก้อะไร แก้แล้วประชาชนและประเทศชาติ จะได้อะไร การทุจริตคอรัปชั่นจะน้อยลงหรือไม่  ประเทศไทยจะได้นักการเมืองที่ดีมีคุณธรรมจริยธรรมมากขึ้นหรือไม่ เราจะไว้ใจคณะกรรมาธิการ และสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญได้หรือไม่
ที่มา:หนังสือพิมพ์มติชน 8 มี.ค.55,น.3และแก้ไขเพิ่มเติมโดยตูน'53



















      
    การแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้เพื่อความเป็นประชาธิปไตยมากขึ้นของประเทศ


 เพื่อประโยชน์ของประชาชนโดยรวม หรือ เพื่อนักการเมืองพวกใดพวกหนึ่ง 


คนใดคนหนึ่งจะได้กลับมามีอำนาจทางการเมือง?
         

   ประเด็นเหล่านี้ ยังคงเป็นคำถามที่ค้างคาอยู่ในจิตใจของพี่น้อง

ประชาชนจำนวนมาก ที่ต้องการทราบทั้งข้อเท็จจริง และความจริงใจ

ของนักการเมือง และผู้ที่มีบทบาทเกี่ยวกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ รวม

ทั้งเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในขั้นตอนต่างๆระหว่างการแก้ไขรัฐธรรมนูญ


            สาเหตุที่ประชาชนยังคงมีความคลางแคลงสงสัยอยู่มาก ก็เพราะว่าปัญหาความแตกแยกทางการเมืองที่ยังคงอยู่ และความพยายามในการนำเอาพันตำรวจโท ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กลับเข้าประเทศไทย แบบมีเลศนัยตามคำพูดของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ที่ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนไทยว่า “ท่านทักษิณไม่ได้ทำผิดกฎหมาย แต่ท่านทำสิ่งที่กฎหมายห้าม...” คำพูดเช่นนี้หมายความว่าอย่างไร   มีนัยยะในทางการเมืองมากเพียงไร    และเกี่ยวข้องกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญหรือไม่?
            ขณะที่พันตำรวจโท ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ก็ได้ให้สัมภาษณ์นายไรซาอัด ซาลามัด ผู้สื่อข่าวบลูมเบิร์ก ทีวี ระหว่างการเข้าร่วมประชุมภาวะผู้นำแห่งเอเชีย ที่กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ โดยแสดงความเชื่อมั่นว่า ความปรองดองในชาติจะเกิดขึ้นได้ในที่สุด และอาจเร็วกว่าที่ใครคิด คือภายในสิ้นปีนี้ ส่งผลให้ตนเองสามารถเดินทางกลับประเทศภายในปีนี้อีกด้วย(มติชน 8 มี.ค.55,น.14)

            โดยพันตำรวจโท ทักษิณ ระบุด้วยว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญที่รัฐบาลเสนอ เป็นการแก้ไขเพื่อให้เป็นประชาธิปไตยมากขึ้น ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากคนไทย 66 ล้านคน จนแทบจะเป็นฉันทามติ แต่ทว่าในสภาพจริงของสังคมไทยกลับยังคงมีกลุ่มต่างๆทางการเมืองออกมาต่อต้าน วิพากษ์วิจารณ์ไม่เห็นด้วยกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยเฉพาะกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่เป็นฝ่ายต่อต้านพันตำรวจโท ทักษิณ โดยตรง ได้จัดการสัมมนาแสดงพลังและท่าทีต่อต้านไม่เห็นด้วยกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ

            และเมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ถ้าจำเป็นต้องติดคุก เพื่อให้เกิดความสมานฉันท์ขึ้นในประเทศ พ.ต.ท.ทักษิณ พร้อมหรือไม่ ซึ่งรายงานข่าวระบุว่า พ.ต.ท.ทักษิณตอบเลี่ยงว่า “ผมไม่ได้ทำอะไรผิด” ในขณะที่นายคริส เบเกอร์ นักวิเคราะห์การเมืองไทยให้ความเห็นว่า รัฐบาลยิ่งลักษณ์ที่ไม่มี พ.ต.ท.ทักษิณอยู่ด้วยถือว่าเหมาะสมกับสถานการณ์ในเวลานี้อย่างสมบูรณ์แบบ นายกยิ่งลักษณ์ทำหน้าที่รอมชอมได้วิเศษมาก...โดยมีอย่างเดียวเท่านั้นที่สามารถเปลี่ยนสิ่งเหล่านี้ได้ทั้งหมดก็คือ เมื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ พยายามจะกลับมาประเทศมานั่นเอง(มติชน 8 มี.ค.55,น.14)

            คำวิเคราะห์เช่นนี้หมายความว่าอะไร และมีนัยยะทางการเมืองในทางแตกแยก หรือปรองดองสงบเรียบร้อย  และจะส่งผลสะท้านสะเทือนถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญ รวมถึงความปรกติสุขของพี่น้องประชาชนคนไทย และความมั่นคงมั่งคั่งของประเทศเพียงใด

            รัฐบาล และคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติม รวมถึงพรรคฝ่ายค้านและสื่อสารมวลชน ควรจะช่วยกันทำให้คำพูดที่มีนัยยะทางการเมืองเหล่านี้ และสิ่งที่จะเป็นไปในขั้นตอนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ มีความชัดเจน เป็นที่เข้าใจได้ง่ายและเข้าใจตรงกัน  สำหรับประชาชนทั่วไป ไร้วาระและผลประโยชน์แอบแฝงของนักการเมืองกลุ่มพวกหรือคนใดๆ เพื่อป้องกันมิให้เกิดความขัดแย้งและกลียุคขึ้นในบ้านเมืองอีก

            ถึงแม้ว่าจะต้องถูกวิพากษ์วิจารณ์ ถูกใส่ร้ายป้ายสีบ้างก็ต้องยอม และต้องต่อสู้กันโดยวิถีทางประชาธิปไตยโดยแท้จริง  ไม่ใช่ใช้ระบอบกฎหมู่ ใช้มวลชนหรือวาทะกรรมบิดเบือนซ่อนเร้น ความไม่ปรกติเอาไว้เป็นระเบิดเวลา ซึ่งไม่ได้เป็นประโยชน์อันใดต่อประเทศชาติ ประชาชนและความเป็นประชาธิปไตยที่นำมากล่าวอ้างเลย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น