รองฯเฉลิมปราบยา...นายกปูปราบโกง...
เรื่อง“หมาเฝ้าบ้าน”...จึงมีคุณค่า
ต้องขอปรบมือให้กับท่าน พล.ต.อ.เพรียวพันธ์
ดามาพงษ์
ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.)
ที่ทำท่าปึ๋งปั๋งประกาศสาวไส้ขบวนการโกงสอบคัดเลือกเข้าเป็นนายสิบตำรวจให้ได้ยกแก๊ง
ตามมาด้วยการลงดาบ “ผู้ทุจริตการสอบ”
และ “ผู้ที่สุจริตในการสอบ”ด้วย
โดยการประกาศให้การสอบครั้งนี้เป็นโมฆะ
โดยอ้างว่าเพื่อความสง่างามแต่แรกของผู้ที่จะเข้ามาเป็นตำรวจ
ถึงแม้สังคมและสื่อมวลชน
จะมองว่าการลงดาบครั้งนี้จะ “ไม่ค่อยเป็นธรรม”กับผู้สุจริตในการสอบกว่าสองแสนคนเท่าไรนัก
แต่ก็ไม่ถึงกับคัดค้านต่อต้าน
หรือวิพากษ์วิจารณ์อะไรรุนแรง แสดงให้เห็นถึงท่าทีของการยอมรับ
และความปรารถนาที่จะเห็นตำรวจเอาจริงเอาจังกับการโกง
และเติบโตไปเป็น “ตำรวจที่ไม่โกง”
ไม่ซื้อขายตำแหน่ง ไม่รับสินบน ไม่ทำตัวเป็นโจรปล้นแบงก์ หรืออุ้มฆ่า ค้ายาบ้า
ตั้งศาลเตี้ยรีดไถผู้กระทำผิดกฎจราจร เป็นต้น
เฉกเช่นเดียวกับ ฯพณฯรองนายกรัฐมนตรี
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ที่นำขบวนตำรวจปราบยาเสพติด
จนมีชื่อเสียง(ทางบวก)เป็นที่ยอมรับของสังคม ไม่แพ้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี
ที่ประกาศทำสงครามกับยาเสพติด จนได้รับเสียงปรบมือจากชาวบ้านดังกระหึ่ม
ถึงแม้ว่าจะมีข้อตำหนิเกี่ยวกับการฆ่าตัดตอน
ยิงผิดตัว จับมั่ว รัวตู้เย็น อยู่บ้าง
แต่เมื่อมองภาพโดยรวมก็ต้องยอมรับว่า
สังคมไทยเห็นด้วยในการเอาจริงเอาจังกับการปราบปรามการทุจริต และยาเสพติด
เพราะ “การโกงและยาเสพติด”ทั้งสองเรื่องนี้เป็นเภทภัยต่อความมั่นคงของชาติอย่างร้ายแรง
ถึงขั้นสิ้นชาติ เสียเอกราชกันทีเดียวเชียว
เห็นได้ชัดจากประวัติศาสตร์ชาติไทยในอดีต อาทิเช่น
การขายตัวเป็นหนอนบ่อนไส้เปิดประตูให้ข้าศึกเข้าตีเมือง การขายสมบัติของชาติ การทุจริตเชิงนโยบายการโกงกินงบประมาณแผ่นดิน
ฯลฯ มีการคอรัปชั่นโกงกินกันทุกรูปแบบในทุกวงการของประเทศไทย
ไม่เว้นแม้แต่วงการพระสงฆ์องค์เจ้าที่เป็นต้นแบบด้านศีลธรรมคุณธรรมจริยธรรม
เป็นต้น เรื่องขบวนการทุจริตเครื่องราชอิสริยาภรณ์ หรือ แอบแฮ๊บเงินวัดไปบำรุงบำเรอกิเลสตัณหา
กามา-สีกาก็มีเป็นข่าวให้เห็น
ที่สำคัญและน่าวิตกห่วงใย คือ
บางพวกบางตอนของสังคมไทยกำลังจะยอมรับค่านิยม “โกงบ้างไม่เป็นไร
แต่ขอให้มีผลงาน”
หรือพูดภาษาบ้านๆว่า เอ็งจะโกงก็โกงไป
แต่ขอให้จัดสรรประโยชน์ให้ข้าบ้างก็แล้วกัน หรือ เอ็งเอาหมูไป เอาไก่มาให้ข้า ต่างคนต่างได้
บ้านเมืองฉิบหายช่างมัน
และที่สำคัญยิ่งกว่า คือ ค่านิยมการโกง
การทุจริตเชิงนโยบาย แบบเมกกะโปรเจ็กต์ร้อยล้านพันล้าน
ยิ่งทำโครงการพัฒนายิ่งใหญ่เท่าไร ยิ่งโกงง่ายโกงได้มาก แต่จับได้ยาก
เพราะมีความซับซ้อนทั้งในด้านขั้นตอนงบประมาณ
ผู้เกี่ยวข้อง เทคนิคและระยะเวลา
ดังนั้น
เมื่อนักการเมืองทั้งระดับชาติและระดับท้องถิ่น ยิ่งก่อสร้าง ยิ่งซื้อที่ดิน
ยิ่งตัดถนน ยิ่งพัฒนาก็ยิ่งรวย แถมมีผลงานเป็นที่ประทับใจชาวบ้านอีกด้วย
ส่วนที่ฯพณฯท่าน นายก อบจ. นายกเทศมนตรี
สมาชิกสภา ทั้งหลายโกงกินไปเท่าไร ชาวบ้านไม่รู้ ตามไม่ทัน คิดไม่ทัน หรือถึงรู้แต่ก็ช่างเถอะ
เพราะ“โกงบ้างไม่เป็นไร แต่ขอให้มีผลงาน” นี่แหละ
แต่จะปล่อยบ้านเมืองเป็นไปอย่างนี้คงไม่ได้
เพราะเมื่อถึงวันหนึ่งประชาชนที่เป็น “สุจริตชน” เป็นพลเมืองดี เป็นประชากรของประเทศและเป็นองค์ประกอบของรัฐชาติ
ก็คงถูกลงดาบลงโทษ ให้พินาศ ตกต่ำล่มสลายไปพร้อมกับชาติเป็นแน่แท้
หากจะปล่อยให้นักการเมืองและพวกทุจริต
โกงบ้านโกงเมือง ทำอะไรกันได้ตามใจชอบ โกงกินกันง่ายๆสบายๆ
ผมขอเรียกร้อง ให้ ฯพณฯท่านนายกรัฐมนตรี นางสาวยิ่งลักษณ์
ชินวัตร ออกมายืนแถวหน้าเป็นผู้นำในการปราบปรามพวกทุจริตคอรัปชั่น โกงกินแผ่นดิน
ในวงการเมืองทั้งระดับชาติและท้องถิ่น ในวงการราชการ
และ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคเอกชน
ภาคประชาชนจอมปลอม ที่ถูกวางให้เป็นกลไกและเครื่องมือในการตรวจสอบทุจริต
แต่กลับทำตัวเป็นเครื่องมือและกลไกในการทุจริตคอรัปชั่นให้นักการเมืองและข้าราชการเสียเอง
อย่าปล่อยให้เป็นหน้าที่ของ ปปช. หรือ
ปปง.ไปงมเข็ม-งัดข้อ ช่วงปลายน้ำหลังมีการโกงเกิดขึ้นแล้วเลยครับ
เพราะมันได้ผลน้อย และหยุดการคอรัปชั่นไม่ได้จริง
ถ้าจะทำให้เห็นผลจริง
หยุดโกงได้จริง ได้ผลชะงัดนัก ท่านนายกรัฐมนตรี นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ต้องเอาแบบอย่าง
ท่านผบ.ตร.พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ต้องเอาอย่าง ฯพณฯรองนายกรัฐมนตรี
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง หรืออดีตท่านนายกทักษิณ ชินวัตร
ในด้านการเป็นผู้นำปราบปรามยาเสพติดก็ได้
อย่างนี้จึงจะเรียกว่าเอาจริง
ทำจริงเพื่อประโยชน์ของชาติบ้านเมืองและประชาชนจริงๆ ทำให้
“หมาเฝ้าบ้าน”ทุกส่วนทุกแขนงมีคุณค่าขึ้นมาจริง ไม่ใช่ของปลอมหลอกกินไปวันๆ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น